Forex กับ Crypto แตกต่างกันอย่างไร เป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาสนทนากันในหมู่นักลงทุนสมัยใหม่อยู่เสมอ เนื่องจาก Forex กับ Crypto ให้ผลตอบแทนสูงมาก โดยการเทรด Forex เพียงไม่กี่วันอาจหมายถึงกำไร 20%-50% สำหรับคนที่มีประสบการณ์มาก แต่ Forex ก็ถูกท้าทายจากคลื่นรุ่นใหญ่ เพราะมีตัวอย่างของคนที่ถือเหรียญ Crypto ไว้เฉยๆ จนทำกำไรหลัก 1,000 เท่าหรือ 10,000 เท่าเลยทีเดียว
คำถามสำคัญอันดับแรกของนักลงทุน คือ Forex กับ Crypto แตกต่างกันอย่างไร หรือทั้งสองอย่างนั้น สามารถสร้างผลกำไรได้จริงหรือไม่? บทความนี้จะพาไปเปรียบเทียบแง่มุมสำคัญบางประการเกี่ยวกับการเทรดหรือสร้างผลกำไรในตลาดสองตลาดแห่งนี้
สารบัญ
ตลาด Crypto คืออะไร?
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเทรด Crypto ได้รับความนิยมอย่างมาก นักลงทุนต่างคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ในอนาคตของเทคโนโลยีใหม่นี้ว่า Crypto จะเป็นเงินแห่งอนาคต แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ การยืนระยะให้ได้นานและการรักษาเสถียรภาพทางราคา เพราะปัญหาหลัก คือ เหรียญ Crypto มีความผันผวนสูงจนไม่สามารถใช้แทนเป็นสกุลเงินหลักได้
ไอเดียหลักของสกุลเงินดิจิทัล คือ การกระจายอำนาจในการบันทึกข้อมูล หรือ Decentralization เมื่อทุกคนมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของข้อมูลแล้ว ก็แปลว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเครือข่าย Blockchain จะถูกรับรู้เป็นสิ่งเดียวกันทั้งหมดในเครือข่าย ไม่มีใครสามารถโกงหรือเจาะระบบได้โดยง่าย เพราะมีคอมพิวเตอร์ของทุกคนในเครือข่ายร่วมกันตรวจสอบอยู่
ตลาด Crypto มีอายุประมาณ 13 ปีแล้ว โดยมันทำงานตลอด 24 ชั่วโมงมาตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของตลาด Crypto อย่างแท้จริง โดย Bitcoin คือ สกุลเงิน Crypto แรกที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินการพัฒนาเครือข่ายและสามารถกระจายผู้ใช้งานออกไปได้ทั่วโลก จวบจนวันแรกจนถึงปัจจุบัน Bitcoin คือเหรียญ Crypto อันดับหนึ่งของโลก และแน่นอนว่ามี Market Cap มากที่สุด
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบ Forex กับ Crypto อย่างแรกต้องเข้าใจก่อนว่า สินทรัพย์ทั้งสองประเภทเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงมากทั้งคู่ ในเบื้องต้นขอสรุปว่า Crypto จะมีความผันผวนมากกว่า ในขณะที่ Forex อาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางเศรษฐกิจบ่อยกว่า หรืออาจเกิดการกระชากของราคาอย่างรุนแรงในวินาทีที่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญได้ง่ายกว่า
ตลาด Forex คืออะไร?
ตลาด Forex เกี่ยวข้องกับสกุลเงินตราต่างประเทศ เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน แต่สำหรับการซื้อขายในตลาด Forex ออนไลน์ที่มีราคากลางชัดเจน จะเปิดให้เทรดเพียง 5 วันต่อสัปดาห์ หรือก็คือวันทำการปกติของตลาดหุ้นนั่นเอง แต่หากต้องการเทรด ส-อา จะเป็นลักษณะของการแลกเงินตราต่างประเทศ ซึ่งจะมีเรทรับซื้อแตกต่างออก อย่างไรก็ตาม นี่ถือว่าเป็นส่วนย่อยของระบบของตลาด Forex
ในปัจจุบัน การเทรด Forex กับ Crypto ยังแตกต่างกันในเรื่อง “ปริมาณการซื้อขาย” (Volume) ค่อนข้างมากอยู่ ตลาด Forex ยังคงเป็นตลาดแลกเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบัน มีปริมาณการเทรดต่อวันราว 5 ล้านล้านดอลลาร์ และที่เม็ดเงินมันมหาศาลขนาดนั้นได้ เพราะไม่ได้มีแต่เพียงรายย่อยเข้ามาลงทุนเท่านั้น ในตลาด Forex มีสถาบันหลักๆ ครบทุกประเภท ตั้งแต่ สถาบันการเงิน, ธนาคาร, บรรษัทข้ามชาติ
การเทรด Forex เดิมที่มีเพียงธนาคารขนาดใหญ่เท่านั้นที่ซื้อขายกัน เพราะขนาดสัญญาขั้นต่ำ คือ 100,000 USD ซึ่งเป็นปริมาณที่รายย่อยไม่สามารถเทรดได้โดยง่าย อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ยุคอินเทอร์เน็ตแล้ว การเทรด Forex ออนไลน์ก็เติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตดอทคอม ที่เป็นช่วงที่บริษัทเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตต่างงัดนวัตกรรมออนไลน์ใหม่ๆ ออกมาแข่งขันกัน
นั่นจึงทำให้ Forex ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และนักเทรดก็เพิ่มจำนวนอย่างก้าวกระโดดเมื่อมีการเปิดตัวซอฟแวร์การเทรดระดับโลกอย่าง “แพลตฟอร์ม MetaTrader 4” หรือ MT4 ที่เราคุ้นเคยกันดี
Forex กับ Crypto ต่างกันอย่างไร?

ก่อนหน้านี้ Forex ได้รับการยอมรับว่า เป็นตลาดที่ยากและผันผวนมากที่สุด แต่การมาถึงของ Crypto ทำให้ความผันผวนของ Forex นี่ดูต่ำไปเลย โดยค่าเฉลี่ยความผันผวนสูงสุดของคู่เงิน EURUSD จะอยู่ที่ประมาณ 1-2% เท่านั้น ในขณะที่ Crypto สามารถวิ่งไปมาระดับ 10% ได้เป็นเรื่องปกติ โดยไม่จำเป็นต้องมีข่าวพิเศษใดๆ เข้ามาแทรกแซง
เมื่อเป็นเช่นนี้ โดยธรรมชาติ โบรกเกอร์จะอนุญาตให้ใช้อัตรา Leverage ในตลาด Forex สูงกว่า Crypto ทั้งนี้เนื่องจากตลาด Forex มีพัฒนาการมาอย่างยาวนาน ทำให้มั่นใจได้ว่า ต่อให้ใช้ Leverage กันมากขนาดไหน ก็จะยังไม่ได้ปัจจัยที่จะสามารถส่งผลกระทบต่อความเสี่ยงของระบบการเงินโลกได้
ในขณะที่การอนุญาตให้อัตรา Leverage ในตลาด Crypto จะมีข้อจำกัดมาก เช่นสมมติเหรียญ ADA ร่วงลง 20% ภายในแท่งเดียว หากมีออเดอร์ของเทรดเดอร์ที่ใช้ Leverage มากๆ อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อทั้งโบรกเกอร์และระบบตลาดแลกเปลี่ยนทั้งหมดได้
สภาพคล่องของ Forex กับ Crypto
เป็นที่รู้จักในฐานะตลาดที่รวดเร็วและค่อนข้างผันผวน ซึ่งดึงดูดเทรดเดอร์ ความผันผวนนี้ทำให้มีโอกาสทำเงินได้มากขึ้น บ่อยครั้ง ความผันผวนนี้มาจากข่าวการเมืองและเศรษฐกิจ ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจของประเทศ ความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ย ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อมูลค่าของสกุลเงินเมื่อเทียบกับผู้อื่นมากน้อยเพียงใด ด้วยเหตุผลนี้ เทรดเดอร์ Forex ไม่ได้มุ่งเน้นที่กราฟราคาเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงปัจจัยอื่นๆ รวมถึงปฏิทินเศรษฐกิจและการอัปเดตเกี่ยวกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในเวทีโลก
สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ การเทรดเหรียญแปลกๆ ในตลาด Crypto เพราะบ่อยครั้งที่เหรียญเหล่านั้นมีแนวโน้มราคาน่าสนใจ แต่เป็นเหรียญที่มีสภาพคล่องน้อย ซึ่งหมายความว่า โอกาสที่จะเกิดการปั่นหรือควบคุมราคาโดยบุคคลหนึ่งๆ จะทำได้โดยง่าย หรือหากมีออเดอร์การเทรด Lot ใหญ่ ก็จะทำให้เกิดการกระชากของราคาได้โดยง่าย ซึ่งจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่ออเดอร์ที่เราเปิดเทรดไว้
ตารางสรุปความแตกต่างระหว่าง Forex กับ Crypto
ในส่วนนี้จะขอสรุปคร่าวๆ อีกครั้ง ได้แก่
- ตลาด Crypto จะเทรดได้ทุกวัน และเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในขณะที่ Forex เทรดได้เพียง 5 วันทำการเท่านั้น
- ต้นทุนตลาด Forex มีแนวโน้มจะถูกกว่า และมีโปรโมชั่นที่ดีกว่า เช่น Forex Bonus
- เหรียญ Crypto เน้นวิเคราะห์เทคโนโลยีเบื้องหลังหรือตัวโครงการ แต่ตลาด Forex จะเน้นวิเคราะห์เศรษฐกิจ
- หัวข้ออื่นๆ ลองตรวจสอบจากตารางด้านล่างนี้
Forex กับ Crypto เลือกอะไรดี?
ระหว่างตลาด Crypto กับ Forex คุณต้องเลือกสินทรัพย์ที่เข้ากับนิสัยของคุณมากที่สุด ตลาด Forex จริงๆ แล้วมีความเป็น “แนวโน้มสูงมาก” แต่จะกินระยะเวลาหรือเคลื่อนไหวตามไทม์เฟรมใหญ่ เช่น H4, Day ขึ้นไป จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการนอนหลับพักผ่อนอย่างสนิท เพราะหากราคาเคลื่อนไปตามแนวโน้มแล้ว ต่อให้มีวันที่ตลาดแดงสวนทิศทาง ตลาดก็จะติดลบเพียง 1-2% ในกรณีที่แย่สุดๆ เท่านั้น
ซึ่งแท้จริงแล้ว ตลาด Forex จะเคลื่อนไหวตามปัจจัยพื้นฐานบางประการ เช่น อัตราดอกเบี้ย, แนวโน้มการค้า ฯลฯ อย่างที่อธิบายไปข้างต้น จึงทำให้ตลาด Forex ได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่มีความเข้าใจเรื่องเศรษฐศาสตร์ด้วย ในขณะที่ตลาด Crypto จะต้องวิเคราะห์จากพื้นฐานของโครงการ Blockchain นั้นๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีรายละเอียดไปในด้าน IT หรือ Coding สูง แต่ตลาด Forex ไปทางเศรษฐกิจโลก
ดังนั้น ในมุมมองของผู้เล่น จะขอสรุปวิธีการเลือกมองระหว่าง Forex กับ Crypto ไว้คร่าวๆ ดังนี้
- รอบการเคลื่อนไหวของ Forex จะใช้เวลายาวนานกว่า การเกิด Trend จะมีระยะเวลาให้เก็บเกี่ยวได้นาน
- เหมาะกับสายเศรษฐศาสตร์
- นักเทรด H4, Day
- Swing Trader
- Crypto มีรอบการเคลื่อนไหวที่สั้นกว่า จบรอบเร็วกว่า
- เหมาะสำหรับคนชอบ IT, Coding
- สามารถเทรดสั้น H1, 5 นาที ได้ง่ายกว่า เพราะมีรอบระยะสั้นเยอะกว่ามาก
- Swing Trader แต่ก็เป็นสวิงเทรดเดอร์ได้เช่นกัน
เทรดกับโบรกเกอร์ AximTrade
ตอนนี้คุณสามารถเริ่มต้นการเทรด Crypto ได้ง่ายๆ กับโบรกเกอร์ AximTrade แล้ว เพียงคุณเปิดบัญชี Forex (เปิดบัญชีเดียว – ใช้เทรดได้ทุกสินทรัพย์) และเริ่มต้นฝากเงิน ก็สามารถเข้าเทรดในตลาด Crypto ได้แล้ว
โบรกเกอร์ AximTrade เป็นผู้ให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดโลก ด้วยแพลตฟอร์มการเทรดขั้นสูง “MetaTrader 4” หรือ MT4 และเปิดให้เทรด Crypto ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ โบรกเกอร์ AximTrade ยังมีแหล่งข้อมูลสำหรับการค้นคว้า, การวิเคราะห์ออนไลน์ฟรี รวมถึงการอบรมสัมมนาฟรีตลอดทั้งปีอีกด้วย นอกจากนี้ AximTrade ยังมีฝ่ายบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง คุณสามารถแชทสดผ่านเว็บไซต์ได้ตลอดเวลา