แนวโน้มราคาทองคำในปี 2023 ถือว่าน่าสนใจมาก มันได้รับผลกระทบทั้งจากทิศทางของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) และปัจจัยที่กระตุ้นให้ทองคำกลับมาเป็น Safe Haven Asset ในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
สารบัญ
สรุปภาพรวมราคาทองคำ
- ทองคำทำผลงานได้ไม่ดีนักในปี 2022 แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะพุ่งสูงและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจก็เพิ่มมากขึ้น
- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ประกอบกับอุตสาหกรรมในจีนที่ชะลอตัวลงจนส่งผลต่อความต้องการราคาทองคำด้วย
- แต่แนวโน้มราคาทองคำเชื่อว่า จะปรับตัวสูงขึ้นในปี 2023 จากอานิสงส์ของดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง เนื่องจากการชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการฟื้นตัวของจีน
ในปี 2022 ที่ผ่านมา ราคาทองคำพุ่งสู่จุดสูงสุดที่ $2,000 ในเดือนมีนาคม ก่อนจะร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือนที่ $1,619 ในไตรมาสที่สาม อย่างไรก็ตาม ในช่วงสุดท้ายของปี ราคาทองคำก็บวกแรงถึง 3% กลับมาอยู่ที่ราว $1,814
สำหรับในปี 2023 แม้ว่าราคาจะพุ่งสูงขึ้นมาพอสมควร แต่จากประเด็นทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ก็ยังมีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาทองคำให้สูงขึ้น เช่น ความต้องการของนักลงทุนในการซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ และความกังวลเกี่ยวกับการล่มสลายของระบบธนาคารที่มีการก่อหนี้ไว้สูงมาก
ปัจจัยที่ส่งผลต่อแนวโน้มราคาทองคำ 2023
เป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ถึงปัจจัยที่มีความไม่แน่นอนสูง แต่ในปี 2023 อาจจะพอสรุปปัจจัยพื้นฐานหลัก ๆ ที่ส่งผลต่อราคาทองคำได้ดังต่อไปนี้
1. การต่อสู้ของธนาคารกลางกับเงินเฟ้อ
อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะลดลงอย่างมากในปี 2023 – 2024 เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เริ่มปรับตัวลงและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลง สิ่งนี้จะเปลี่ยนการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินของธนาคารกลาง ซึ่งในปัจจุบันยังเป็นธีมของการจำกัดเพดานเงินเฟ้อหรือการขึ้นดอกเบี้ยนั่นเอง ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 หรือราวต้นปี 2024
2. เศรษฐกิจชะลอตัว
เศรษฐกิจโลก ถูกคาดการณ์ว่าจะเติบโตเพียง 2.1% เท่านั้นในปี 2023 สาเหตุหลักมาจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วและรุนแรงของธนาคารกลาง ทำให้ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจลดน้อยลง ดัชนี PMI ลดลงสู่เขตหดตัว จนสร้างความกังวลว่าจะเกิดภาวะถดถอย
3. ดอลลาร์อ่อนค่า
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ได้รับผลกระทบจากแรงกดดันด้านลบในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะเอื้อประโยชน์ต่อสกุลเงินดอลลาร์ก็ตาม สะท้อนว่า ความต้องการเงินดอลลาร์ตกต่ำลง แน่นอนว่า ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
4. การเปิดเศรษฐกิจของจีน
หลังจากปี 2022 ที่ยากลำบาก ความต้องการทองคำของผู้บริโภคในจีน คาดว่าจะกลับมาเนื่องจากการชะลอตัวลงของ Covid-19 มีแนวโน้มว่า เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวในปี 2023 นี้เนื่องจากการผ่อนคลายข้อจำกัดของหน่วยงานท้องถิ่นและมาตรการต่าง ๆ เช่น การขยายการเข้าถึงสินเชื่อ นโยบายเหล่านี้จะกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคให้สูงขึ้นได้
5. ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
สถานการณ์ความขัดแย้งหลัก ๆ ประเด็น ยูเครน-รัสเซีย, จีน-สหรัฐฯ ที่ส่งผลต่อการค้าโลก หากเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสองเรื่องนี้ มีโอกาสที่จะส่งผลต่อราคาทองคำ ยิ่งสถานการณ์ตึงเครียด จะยิ่งทำให้ทองคำกลับมาเป็น Safe Haven Asset หรือสินทรัพย์ปลอดภัยในสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ
อัตราเงินเฟ้อ
รายงาน Gold Demand Trends จากสถาบัน World Gold Council เปิดเผยว่า ความต้องการทองคำที่ไม่รวมตลาด OTC ประจำปี (YoY) เพิ่มขึ้น 18% แตะจุดสูงสุดใหม่ในรอบทศวรรษที่ 4,741 ตัน (สูงสุดนับตั้งแต่ 2011) ส่วนความต้องการทองคำของธนาคารกลางพุ่งขึ้นเป็น 1,136 ตันในปี 2022 จากตัวเลข 450 ตันในปีที่แล้ว หรือเพิ่มขึ้นมากถึง 2x เท่า! โดยความต้องการเฉพาะในไตรมาส 4 ของธนาคารกลางสูงถึง 417 ตัน

ความต้องการทองคำเพื่อการลงทุนที่ไม่รวมตลาด OTC เพิ่มขึ้น 10% ในปี 2022 มีการซื้อทองคำแท่งและเหรียญเพิ่มขึ้น โดยในยุโรป การลงทุนทองคำแท่งและเหรียญทั้งหมดในปี 2022 ที่จำนวนมากกว่า 300 ตัน นอกจากนี้ ทางฝั่งตะวันออกกลางยังมียอดการลงทุนเพิ่มมากขึ้น 42% จากปีก่อน
▶ ทองคำเพื่อการป้องกันความเสี่ยง
ทองคำถูกมองว่าเป็นตัวเก็บมูลค่า (Store of value) มีภูมิคุ้มกันต่อการควบคุมของรัฐบาลและธนาคารกลาง เชื่อกันว่า ราคาไม่ได้ผูกติดกับนโยบายการคลังหรือนโยบายการเงินของประเทศใด ทำให้ระยะยาวมันมีมูลค่าเติบโตขึ้นเสมอ และทนทานต่อเงินเฟ้อ
ทองคำ กลายเป็นสินทรัพย์หลบภัย (Safe Haven Asset) ร่วมกับสกุลเงินอื่น ๆ เช่น เยนญี่ปุ่น, ฟรังก์สวิส ดังนั้น เมื่อนักลงทุนรู้สึกไม่มั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เสี่ยงมากยิ่งขึ้น พวกเขาก็มักจะซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเหล่านี้
ทองคำ ยังสามารถใช้เป็นสินทรัพย์สำหรับการกระจายความเสี่ยง เนื่องจากการเคลื่อนไหวของราคาของทองคำมักจะไม่สัมพันธ์กับสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ เช่น หุ้น, สกุลเงิน Forex ดังนั้น จึงช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตได้ อีกทั้ง ทองคำยังมีสภาพคล่องสูง ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่าย แตกต่างจากงานศิลปะ, ที่ดิน ฯลฯ นั่นทำให้ทองคำได้รับความนิยมสำหรับการลงทุน
▶ ทองคำเพื่อการป้องกันความเสี่ยงกับ AximTrade
คุณสามารถเทรดทองคำออนไลน์คู่กับสกุลเงินดอลลาร์ได้แล้ว (XAUUSD) ซึ่งคุณจะได้รับเงื่อนไขการซื้อขายที่ยืดหยุ่นด้วย Leverage สูงสุดในอุตสาหกรรม พร้อมด้วยโปรโมชั่น Cashback สำหรับบัญชี Standard ซึ่งทำให้คุณได้รับเงินคืนทุก ๆ การเทรดของคุณ
และด้วยโบรกเกอร์ AximTrade คุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การเทรดที่ไหลลื่น ระบบ CopyTrade ที่ทันสมัยที่ช่วยให้คุณสามารถลงทุน หรือบริหารพอร์ตการลงทุนให้เพื่อนหรือนักลงทุนคนอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย พร้อม Forex App ที่ทำให้คุณเข้าถึงบัญชีของคุณได้ทุกที่ทุกเวลา!