Aximdaily
ตลาดหุ้นดาวโจนส์

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ คืออะไร? เปิดบัญชีเทรดดาวโจนส์ที่ไหนดี?

คุณอาจจะเคยได้ยินชื่อ “ตลาดหุ้นดาวโจน์” จากรายการเรื่องเล่าเช้านี้ในทุก ๆ เช้า ดาวโจนส์ที่ดูจะอ่อนไหวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การขึ้นดอกเบี้ยก็ส่งผลต่อดาวโจนส์, สงครามระหว่างภูมิภาคก็ส่งผลต่อดาวโจนส์ และทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูจะเกี่ยวข้องกับดัชนีดาวโจนส์ไปเสียทั้งหมด คำถามสำคัญสำหรับนักลงทุน คือสรุปแล้ว ดาวโจนส์ คืออะไร? หรือเราจะหาประโยชน์จากดัชนีดาวโจนส์ในฐานะนักลงทุนได้อย่างไรบ้าง

ตลาดหุ้นดาวน์โจนส์ คืออะไร?

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ คือ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (ดัชนีตลาดหุ้น) ที่คำนวณจาก 30 บริษัทที่ใหญ่และโดดเด่นที่สุดที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยดัชนีดังกล่าวจะถูกคำนวณและให้น้ำหนักในแต่ละบริษัทแตกต่างกันไปเป็นไปตามวิธีการของ S&P Dow Jones Indices ซึ่งเป็นบริษัทที่เจ้าของลิขสิทธิ์และจัดการกิจกรรมเกี่ยวกับดัชนีดาวโจนส์ทั้งหมด

ดาวโจนส์ มีชื่อเต็ม ๆ ในภาษาอังกฤษว่า Dow Jones Industrial Average หรือ “DJIA” แล้วเมื่อมันเป็นการคำนวณจาก 30 บริษัทที่โดดเด่นทั้งจากตลาดหุ้นนิวยอร์ก (New York Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq (ตลาดหุ้นอันดับ 2 ของสหรัฐ) ดังนั้น จึงมักเรียกดัชนีดาวโจนส์แบบสั้น ๆ ว่า “Dow30”, “US30” หรืออาจเรียกว่า “DJI” เฉย ๆ ก็ขอให้ทราบทั้งหมดหมายถึง “ดัชนีดาวโจนส์” ตัวเดียวกัน

เหนือสิ่งอื่นใด “ดัชนีดาวโจนส์” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นดัชนีที่สะท้อนมูลค่าหรือภาพรวมของตลาดหุ้นสหรัฐ รวมถึงเศรษฐกิจในภาพรวมของสหรัฐอีกด้วย เพราะทั้ง 30 บริษัททั้งหมด ล้วนแต่เป็นบริษัทที่สะท้อนถึงสุขภาพทางเศรษฐกิจของสหรัฐทั้งสิ้น ทั้งกำลังซื้อของผู้บริโภค, การเดินทาง, นวัตกรรมใหม่ ๆ เป็นต้น

เทรดดาวโจนส์โบรกเกอร์ไหนดี?

เราทราบแล้วว่า ดาวโจนส์ คือ ดัชนีหุ้นสหรัฐที่สำคัญตัวหนึ่ง และเมื่อเกี่ยวข้องกับหุ้นต่างประเทศ เราก็ต้องเลือกลงทุนผ่านโบรกเกอร์ที่ได้รับการยอมรับในมาตรฐานสากล เพราะเรากำลังเอาเงินลงทุนในตราสารที่ซื้อขายกันในต่างประเทศ ดังนั้น ในเบื้องต้น โบรกเกอร์สำหรับเทรดดาวโจนส์ ต้องผ่านคุณสมบัติเหล่านี้

  • มีใบอนุญาตชัดเจน และแสดงตัวชัดเจนว่า อยู่ภายใต้การกำกับดูแลขององค์กรทางการเงินใด เช่น ASIC, FCA, CySec เป็นต้น
  • มีตัวตนชัดเจน และมีการลงทุนหรือร่วมมือกับสถาบันที่น่าเชื่อถืออื่น ๆ เช่น AximTrade เป็น Sponsor หลักให้กับทีม Alfa Romeo F1 Team ORLEN เป็นต้น
  • มีเว็บไซต์ภาษาไทยที่มีการแปลอย่างถูกต้องและชัดเจน
  • ควรมีทีมงานหรือฝ่ายบริการลูกค้าที่ติดต่อได้ตลอดเวลา เช่น Live Chat 24 ชั่วโมง
เปิดบัญชีเทรดตลาดหุ้นดาวโจนส์ที่ไหนดี?

นอกจากนี้ โบรกเกอร์ AximTrade ยังมีการแจกแจงคุณสมบัติของแต่ละสินค้าว่ามีค่าธรรมเนียมในการเทรดแต่ละครั้งมากน้อยเท่าใด ซึ่งแสดงถึงความโปร่งใสของโบรกเกอร์ โดยเฉพาะภาพด้านบนจะเห็นว่า มีช่องที่เขียนว่า “Avg.spread” ซึ่งก็คือค่าธรรมเนียมในการเทรดแต่ละครั้ง โดยมีหน่วยเป็น PIP นั่นเอง ครั้งนี้คุณอาจต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมว่า PIP คืออะไร เพื่อที่จะเข้าใจข้อมูลเหล่านี้ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

และสุดท้ายนี้ จะสังเกตได้ว่า ดัชนีหุ้นที่มีให้เทรดทั้งหมดของ AximTrade ไม่ได้มีแค่ดาวโจนส์เท่านั้น แต่ยังรวมทุกดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่สำคัญทั้งหมดบนโลกไว้ให้คุณเสร็จได้ เช่น Nikkei 225 Index, S&P 500, Dax 40 Index เป็นต้น ทำให้คุณมีทางเลือกมากขึ้นในการลงทุน

ดูกราฟดาวโจนส์ย้อนหลัง และเรียลไทม์ได้จากที่ไหน?

สมัยก่อนการตามข่าวและราคาของดัชนีตลาดหุ้นต่าง ๆ ทำได้ค่อนข้างยากมาก และมีค่าใช้จ่ายที่สูง นักลงทุนรุ่นบุกเบิกใช้วิธีการอัปเดตราคาจากหนังสือพิมพ์ธุรกิจ และหากต้องการกราฟราคาแบบเรียลไทม์ หรือดูกราฟตลาดหุ้นดาวโจนส์ย้อนหลัง ก็ต้องจ่ายเงินค่าแฟลตฟอร์มเป็นรายเดือนในราคาหลักพันถึงหลักหมื่นบาท แต่สำหรับคนที่เปิดบัญชีทดลองของ AximTrade จะสามารถดูกราฟดาวโจนส์ได้ฟรี ๆ

ดูกราฟดาวโจนส์ย้อนหลัง

กราฟดาวโจนส์ของโบรกเกอร์ AximTrade จะเป็นแพลตฟอร์ม MT4 ซึ่งแน่นอนว่าคุณสามารถใช้งานได้ฟรี ๆ แม้ว่าจะเป็นเพียงการเปิดแค่บัญชีทดลองทิ้งไว้ตาม ในโปรแกรมจะมีเครื่องมือสำคัญทั้งหมดให้คุณฝึกฝนการเทรด เช่น Trendline, MACD, RSI, Moving Average นอกจากนี้โปรแกรม MT4 ยังอนุญาตให้คุณดูราคาของสินค้าอื่น ๆ ทั้งหมดในเวลาเดียวกันได้ เช่น คู่เงิน Forex, Crypto หรือทองคำ เป็นต้น

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ กับ หุ้นไทย แตกต่างหรือสัมพันธ์กันอย่างไร?

อย่างแรกเลยที่ควรทราบ คือ ตลาดหุ้นทั่วโลกมักมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวสอดคล้องกันทั้งหมด อนึ่ง ต้องยอมรับว่าในปัจจุบัน ตลาดการเงินทั่วโลกอยู่ภายใต้อิทธิพลของกองทุนรวม และกองทุนเก็งกำไร เม็ดเงินจากสถาบันเหล่านี้ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ราคาเคลื่อนไหว ดังนั้น ดาวโจนส์ กับ หุ้นไทย จึงค่อนข้างมีความสัมพันธ์กัน หรือเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม เราควรทราบข้อแตกต่างระหว่าง ดาวโจนส์ กับ หุ้นไทย ในบางประการที่สำคัญ เช่น “หุ้นหลัก” ของแต่ละตลาด ตัวอย่างเช่น

  • หุ้นไทย ได้รับอิทธิพลจาก หุ้นกลุ่มพลังงาน ค่อนข้างมาก ดังนั้น ในกรณีที่ราคาน้ำมันในตลาดโลก ปรับตัวสูงขึ้น ก็มีแนวโน้มที่จะส่งผลให้หุ้นไทยเติบโตได้มากกว่าดาวโจนส์
  • กรณีที่เกิดเหตุการณ์พิเศษเกี่ยวกับ “หุ้นเทคโนโลยี” ของสหรัฐ เช่น นโยบายเก็บภาษีหุ้นเทคฯ เป็นต้น แบบนี้ก็อาจส่งผลแค่ดาวโจนส์ และไม่ได้ทำให้ตลาดหุ้นไทยผันผวน
aximtrade
aximtrade broker