มีการพูดคุยกันมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก (Recession) ที่อาจเกิดขึ้นในปี 2023 ซึ่งอาจผลักดันให้นักเทรดต้องพิจารณาเรื่องกลยุทธ์การเทรดใหม่ทั้งหมด ในขณะเดียวกัน ตลาดการเงินก็มีปฏิกิริยาที่แตกต่างกันออกไปในช่วงแต่ละช่วงของเศรษฐกิจ ช่วงที่เกิดเศรษฐกิจถดถอย ผู้คนมักหันไปถือ ‘เงินสด’ เป็นที่หลบภัย กลายเป็นเป็น “เงินสดคือราชา” หรือ Cash is King
สารบัญ
Cash is King คืออะไร?
Cash is King คือ มุมมองที่มองว่าการถือครองเงินสดในฐานะสินทรัพย์ เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ณ เวลาหนึ่ง ๆ หรือเรียกว่า “เงินสดคือพระราชา” ซึ่งในสถานการณ์หนึ่ง ๆ การ “ถือเงินสด” อาจรักษามูลค่ากำลังซื้อที่แท้จริงของนักลงทุนได้ดีกว่าหุ้นหรือสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ ทั้งนี้ นักลงทุนอาจถือเงินสดไว้รอให้ตลาดมีเสถียรภาพ
เทรด Forex ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย?
ในแวดวงของการลงทุน มีเหตุผลที่หนักแน่นที่นักลงทุนจะมองว่า “เงินสดคือราชา” ในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย จนต้องมองหาช่องทางการลงทุนอื่น ๆ อย่างเช่น คู่เงิน Forex เป็นต้น

ตราสารทางการเงินต่าง ๆ เช่น หุ้น สกุลเงินดิจิทัล และตราสารทุน มักถูกเทขายเพื่อเปลี่ยนไปเป็นเงินสดในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากผลตอบแทนของสินทรัพย์เสี่ยงน้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น เมื่อเวลาผ่านไป การลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้อาจให้ผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนในระยะยาวติดลบ
แต่การเทรด Forex สามารถทำกำไรในทิศทางที่เป็นขาลงได้ด้วย เพราะจริง ๆ แล้วการเทรด Forex จะเทรดเป็นคู่เงิน จะมีการซื้อสกุลเงินหนึ่งและขายสกุลเงินหนึ่งออกไปเสมอ เทรดเดอร์เลือกได้ว่าจะ Buy หรือ Sell คู่เงินไหน หากการวิเคราะห์ถูกต้อง ก็สามารถทำกำไรได้ในทุกสภาวะตลาด
ตัวอย่างเช่น หากเราประเมินแล้วว่า อัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรจะสูงขึ้น และคุณมั่นใจว่า สกุลเงินปอนด์ (GBP) จะอ่อนค่าลงอย่างแน่นอน แบบนี้คนที่ถือสกุลเงินปอนด์จะขาดทุน แต่เราสามารถเลือกที่จะ Sell ในคู่เงินปอนด์ได้ ทำให้เราสามารถได้กำไรได้ แม้สินทรัพย์นั้น ๆ จะเป็นแนวโน้มขาลงจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ
เงินสด หมายถึง สภาพคล่อง
ภาวะเศรษฐกิจถดถอย นำมาซึ่งความกังวลว่า พวกเขาอาจจะตกงานและไม่สามารถดูแลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของพวกเขาได้ ดังนั้น การถือเงินสดเท่ากับเป็นทุนสำรองฉุกเฉินที่สามารถนำมาจับจ่ายใช้สอยได้ทันที (มีสภาพคล่อง) ในทางตรงกันข้าม หากเป็นสินทรัพย์อื่น เช่น หุ้น, พระเครื่อง ฯลฯ อาจมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องที่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันที
Cash is King คือ หลักการที่พยายามรักษากำลังซื้อ
การถือเงินสด จะเป็น “ราชา” ได้ก็ต่อเมื่อ นักลงทุนมองเห็นโอกาสในสินทรัพย์ที่ราคาต่ำลง Cash is King จะแสดงผลลัพธ์ได้ยอดเยี่ยมเมื่อสามารถซื้อสินทรัพย์ในปริมาณที่มากขึ้นได้ ทั้งนี้อาจรวมถึงการนำเงินสดไปลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง เช่น Forex แต่ต้องหมายถึง นักลงทุนมีทักษะที่จะสร้างกระแสเงินสดจากตลาด Forex ได้แล้ว อย่างน้อย ๆ กำไรที่ได้ก็ควรชนะเงินเฟ้อ 2-3 เท่า
อัตราดอกเบี้ยกำลังเพิ่มขึ้น
เศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย อัตราเงินเฟ้อมักจะต่ำลงหรือแม้กระทั่งเกิดภาวะเงินฝืด อย่างไรก็ตาม ในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐฯ ต้องต่อสู้กับเงินเฟ้อที่ทำสถิติสูงสุดในรอบสี่ทศวรรษที่ประมาณ 8.5% ประเด็นนี้กระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อพยายามต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ กดดันให้ธนาคารกลางต่าง ๆ ทั่วโลกต้องประคองอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับสูงด้วย และนั่นส่งผลให้การถือเงินสดไว้ในบัญชีออมทรัพย์ ได้ผลตอบแทนที่ดีและไร้ความเสี่ยง
อัตราดอกเบี้ย สร้างมูลค่าให้เงินสด
Cash is King ในมุมหนึ่งหมายถึง “การถือไว้เฉย ๆ” ซึ่งต้องไม่นำเงินเข้าไปเสี่ยงกับสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง แต่สถานการณ์ที่ดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้นทั่วโลก ดอกเบี้ยสิ้นปีอาจมีมูลค่าน่าสนใจ (กรณีที่เสี่ยงมากขึ้น อาจเป็นเงินปันผลจากหุ้น) เงินดอกเบี้ยหรือปันผลดังกล่าว เราอาจเลือกที่จะนำไปลงทุนในตลาด Forex เพื่อสร้างกระแสเงินสดเพิ่ม
ใช้ประโยชน์จากตลาด Forex
Cash is King, also Queen เงินสดที่คุณถืออยู่สามารถโยกย้ายไปเป็นสกุลเงินอื่น ๆ ได้อย่างอิสระ เป็นข้อได้เปรียบที่เหนือว่า “หุ้น” (หรือหุ้น CFD) ในบางประการ คือ มูลค่าหุ้นอาจไม่สามารถกลับมาที่จุดสูงสุดที่เดิมได้ แต่ Forex มีแนวโน้มเป็นไซด์เวย์ เมื่อให้เวลากับมันนานพอ ตลาดจะเคลื่อนไปสุดกรอบ Swing เสมอ นั้นทำให้ในการเทรด Forex จะนิยมใช้กลยุทธ์แบบ Range Trading อีกด้วย

Forex สามารถเพิ่มสีสันให้กับพอร์ตโฟลิโอของคุณ
ตลาด Forex มีสกุลเงินให้เลือกเทรดหลากหลาย ซึ่งทำให้สามารถกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตโฟลิโอของคุณได้ คุณอาจใช้ประโยชน์ด้วยกลยุทธ์ Rebalancing เช่น การเปิดออเดอร์หลาย ๆ คู่เงินพร้อมกัน เช่น อาจซื้อ EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD และ AUD/USD พร้อมกัน เมื่อคู่เงินไหนเริ่มได้กำไรก็เทขายออกแล้ว แล้วเปลี่ยนกำไรเป็นเงินสดในสกุลเงินที่ต้องการ เป็นต้น
สกุลเงินต่างประเทศสามารถปกป้องมูลค่าจากเงินเฟ้อ
เงินสดที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศบางสกุลเงินมีลักษณะพิเศษ ยกตัวอย่างในช่วงเศรษฐกิจถดถอยหรือวิกฤตเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่จะมีมูลค่าลดลง อย่างไรก็ตาม Forex นันแตกต่างออกไป เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัวหรือมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น สกุลเงินของประเทศที่มีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่าประเทศอื่น ๆ จะมีแนวโน้มที่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ซึ่งแปลว่า สกุลเงินของประเทศเหล่านั้นสามารถใช้เป็นเครื่องมือปกป้องนักลงทุนจากเงินเฟ้อได้
สิ่งที่สำคัญคือต้องเข้าใจว่า ประเทศแบบไหนที่สกุลเงินมีแนวโน้มจะแข็งแกร่ง โดยพื้นฐานแล้ว จะเป็นประเทศที่มีสถานะพิเศษบางอย่าง เช่น สหรัฐฯ ที่ทุกประเทศจะใช้สกุลเงินดอลลาร์ (USD) เป็นสกุลเงินสำรองระหว่างประเทศ หรือกรณีของญี่ปุ่นที่มีหนี้เป็นสกุลเงินต่างประเทศน้อย ดังนั้น จึงมีความเสี่ยงเกี่ยวกับค่าเงินของประเทศอื่นน้อยกว่า สกุลเงินเยน (JPY) จึงมักเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ สุดท้ายคือฟรังก์สวิส (CHF) ที่มีลักษณะเป็น Safe Asset เพราะสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน

เงินสด ในฐานะเครื่องมือการลงทุน
ในมุมมองของ Hedge Fund หลายกองทุนจะจัดให้เงินสดเป็น “เครื่องมือในการลงทุน” (Investment Vehicle) การใช้สกุลเงินต่างประเทศ (อย่างที่อธิบายในข้อ 4) เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการกระจายพอร์ตโฟลิโอของคุณในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ
ผู้จัดการกองทุนอาจใช้วิธีการ Rebalancing ในการซื้อและขาย (ปรับพอร์ต) ในช่วงที่ USD แข็งค่ามากขึ้น อาจมีการเปรียบเทียบมูลค่ากับสกุลเงินอื่น ๆ เมื่อถึงเกณฑ์ที่กำหนด ผู้จัดการกองทุนอาจขาย USD ออกบางส่วน แล้วเข้าไปถือ Safe Haven อื่น ๆ เช่น CHF, JPY เป็นต้น เมื่อ CHF, JPY เริ่มแข็งค่า ก็ค่อย ๆ Relabance พอร์ตกลับมา นี่คือหนึ่งในพื้นฐานของการเทรด Forex ด้วย
แต่ทั้งนี้ ในระยะสั้น การเทรด Forex อาจมีการใช้ Leverage เพื่อเพิ่มอัตราการทำกำไร ซึ่งจะแตกต่างจากการ Rebalancing เมื่อได้กระแสเงินสดจากการเทรดแล้ว ก็อาจค่อยเปลี่ยนกำไรเหล่านั้นเป็นเงินสดในสกุลเงินต่าง ๆ ตามที่วางแผน (ในระยะหลัง อาจใช้การเทรด Crypto แทนการเทรด Forex เพื่อสร้างกระแสเงินสด)
แต่อย่าถือเงินสดไป “เฉยๆ” เลย
Cash is King ยังเป็นจริงเสมอ แต่จะดีกว่าไหม ถ้า “เงินสด” ที่ว่ามันสามารถขยายตัวเองออกไปได้เรื่อย ๆ ในปัจจุบัน ตลาด Forex และ Cryptocurrency นับว่าตอบโจทย์ในเรื่องดังกล่าว เทรดเดอร์สามารถ Buy หรือ Sell เพื่อสร้างกระแสเงินสดในระยะสั้นได้ โดยมือใหม่อาจเลือกที่จะใช้งานบัญชีทดลอง (Demo Account) ไปก่อนได้ เมื่อมั่นใจแล้วก็ค่อย ๆ ขยับมาลงทุนด้วยเงินจริงก็ยังไม่สาย ทดลองเทรดฟรี คลิกที่ปุ่มด้านล่าง